5. สมัยทำรายการทไวไลท์โชว์ มีคนดังมากมายที่ไม่เคยยอมออกรายการทีวีมาก่อน แต่มาเปิดใจกับอาต๋อย หนึ่งในนั้นคือ อ.เผ่าทอง ทองเจือ ครั้งนั้น อาต๋อยบอกว่า ตอนแรกอาจารย์ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ เพราะไม่เห็นเหตุผลว่า ทำไมต้องมาเล่าว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน แต่อาต๋อยก็ไปคุย ไปชี้แจงให้เห็นว่า สิ่งเหล่านี้มีประโยชน์

“ทำไมผมต้องเอาเรื่องคุณเผ่าทอง ซึ่งมีชีวิตสบายเป็นคุณหนู มีคนใช้ 7 คน มาออกอากาศ เพราะปัจจุบันเขากลายเป็นคนที่เดี๋ยวต้องขึ้นเชียงใหม่ ไปดูว่าผ้าผืนนี้เป็นยังไง สะสมผ้า ช่วยจัดประกวดที่งานหมู่บ้านนี้หน่อย ทำไมต้องจัดประกวด เพราะไม่อย่างนั้นเขาจะเลิกสานหมวก.. ผมทำชีวิตคนเหล่านี้ก็เพื่อให้เห็นว่า คนที่มีคนใช้เยอะแยะยังตีนติดดินได้ แล้วทำไมเราจะเปลี่ยนแปลงในบางเรื่องของตัวเองไม่ได้”

6. ความโด่งดังของอาต๋อย ถึงขั้นเคยมีคนร้ายจับตัวประกัน และหนึ่งในข้อเรียกร้องของเขาก็คือ ขอคุยกับไตรภพ อาต๋อยเล่าว่า เหตุผลที่คนร้ายเลือกเขามาคุยด้วย เป็นเพราะคนร้ายเคยดูรายการแล้วชอบ รู้ว่ามีความยุติธรรม เป็นทนายความ และเป็นคนรักหมา

7. แม้จะมีคำถามแค่ 16 ข้อ แต่เกมเศรษฐี ก็แจ็กพอตแตกน้อยมาก โดยคนแรกที่ทำได้ คือ ผศ.ดร.ศิกษก บรรลือฤทธิ์ เป็นพี่ชายของสองพระเอก บิณฑ์-เอกพัน บรรลือฤทธิ์

8. อาต๋อยเคยไปรับตำแหน่งผู้อำนวยการช่อง ITV อยู่พักหนึ่ง แถมมีรายการอยู่ในความดูแลมากถึง 28 รายการ ทว่าเป็นอยู่ 2 ปี ช่อง ITV ถูกปิด ทำให้รายการทั้งหมดต้องยุติไปโดยปริยาย และต้องหยุดงานหน้าจอไปเกือบปี ก่อนจะหวนคืนสู่วงการ ในรายการ CLUB 7 ทางช่อง 7 แล้วก็ย้ายกลับมาอยู่ช่อง 3 ในปีถัดมา

9. อาต๋อยบอกว่า ตั้งแต่เป็นพิธีกรมา สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปก็คงเป็นเรื่องที่เขาใจดีขึ้น และเข้าใจโลกมากขึ้น บางอย่างวางได้ก็วางไป เพราะถ้าถือเอาก็ไว้ก็ยิ่งทุกข์ไปเปล่าๆ