1. เชื่อหรือไม่ พวกเขาไม่เคยคิดจะเป็นนักดนตรีมาก่อน ความฝันวัยเด็กของเมธี คือ ปลัดอำเภอ ส่วนอนันต์ คือนักวิทยาศาสตร์ จะมีก็แค่สมเมย์ ซึ่งที่บ้านทำกิจการให้เช่าเครื่องดนตรี ก็เลยคลุกคลีกับเรื่องนี้มาตลอด

2. เครื่องดนตรีชิ้นแรกที่เมธีเล่นคือ คีย์บอร์ด กระทั่งอยู่ ม.3 ชอบจังหวะโซโล่ของมือกีตาร์ก็เริ่มฝึก โดยช่วงแรกไปฝึกอยู่บริเวณปั้มน้ำมันแถวบ้าน พอดีมีพี่คนหนึ่งเดินมาแล้วทักว่า ‘น้องสายเพี้ยน’ ด้วยความสงสัยว่ารู้ได้ยังไง ต้องเทพมากแน่ๆ คืนนั้นก็เมธีไปปรับสายให้เพี้ยนหมด แล้วไปที่บ้านพี่คนนั้นให้เขาช่วยตั้งสายกีตาร์ใหม่ พร้อมกับฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ตอนแรกพี่คนนั้นไม่ยอมสอน แถมบอกว่า ‘ถ้าไม่เล่นจริงๆ จังๆ อย่าเล่นดีกว่า เสียเวลา’ เมธีก็เลยบอกว่า อยากเล่นจริงๆ พี่คนนั้นสอนเมธีตั้งแต่วิธีเล่นสเกล จับคอร์ด กระทั่งเล่นกีตาร์เป็น

3. อนันต์เริ่มเล่นกีตาร์ก่อนเบส โดยฝึกกับน้าแถวบ้าน ก่อนจะมาอยู่กับวง Power Ant ของชมรมดนตรีศูนย์เยาวชนบางมด แต่เผอิญมือกีตาร์เต็มหมดแล้ว เหลือแต่ตำแหน่งเบส ก็เขาเลยย้ายไปเล่นเบสแทน อนันต์เคยประกวดโครงการต่อต้านยาเสพติด ของกรุงเทพมหานคร ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญให้ Labanoon ดึงเขามาร่วมทีม

4. คนที่ตั้งชื่อ Labanoon คือนักร้องนำคนแรกของวง เป็นรุ่นพี่ของเมธีกับอนันต์ 1 ปี

5. อย่างที่ทุกคนรู้ว่า จุดเริ่มต้นของ Labanoon คือ Hotwave Music Award ครั้งที่ 2 แต่รู้หรือไม่ พวกเขาเกือบยื่นใบสมัครไม่ทัน เพราะก่อนหมดเขตรับใบสมัครไม่กี่วัน พวกเขาพบว่า รูปที่ถ่ายติดใบสมัครมีสมาชิกไม่ครบวง ต้องถ่ายใหม่ พอถ่ายเสร็จก็ให้ สมพร ยูโซ๊ะ มือกลองคนแรกไปยื่นที่ Hotwave ปรากฏว่าไปไม่ทัน เลยกำหนดส่งไปประมาณ 1 ชั่วโมง สมพรก็เลยขอร้องเจ้าหน้าที่ จนเขาใจอ่อน และด้วยผลงานที่โดดเด่นนี่เองทำให้ Labanoon เข้ารอบ 30 วงสุดท้าย