วิธิต อุตสาหจิต : ‘ขายหัวเราะ’ ตำนานเสียงฮาสามัญประจำบ้าน

<< แชร์บทความนี้

เมื่อปี 2516 เป็นครั้งแรกที่เมืองไทยได้รู้จักกับนิตยสารฉบับใหม่ที่ชื่อว่า ‘ขายหัวเราะ’ ในตอนนั้นไม่มีใครคาดคิดว่า ‘ขายหัวเราะ’ จะหยัดยืน ผ่านร้อนผ่านหนาวได้ถึงปัจจุบัน

แน่นอนทั้งหมดนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย หากปราศจากชายที่ชื่อ วิธิต อุตสาหจิต ที่มีไอเดียใหม่ อยากนำการ์ตูนชุดหนูจ๋าของจุ๋มจิ๋ม เบบี้ของอาวัฒน์ และนักเขียนในเครือบรรลือสาส์นมารวมไว้เป็นเล่มเดียวกัน 

จากวันนั้นถึงวันนี้ ขายหัวเราะคือ พื้นที่สร้างความสุข และเสียงหัวเราะของผู้คน ซึ่งถ่ายทอดผ่านลายเส้นของนักเขียนฝีมือดี ทั้ง ต่าย ต้อม นิค หมู เฟน เอ๊าะ เอ๊ะ วัฒนา จุ๋มจิ๋ม ฯลฯ แถมยังต่อยอด เกิดเป็นแอนิเมชัน ภาพยนตร์ สติ๊กเกอร์ไลน์ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ อีกนับไม่ถ้วน

ยอดมนุษย์..คนธรรมดา ร่วมกับ The Cloud จึงชักชวนทุกคนมาพูดคุยกับ บ.ก.วิติ๊ด ในตำนาน รวมถึง นก-โชติกา อุตสาหจิต ภรรยา และ นิว-พิมพ์พิชา อุตสาหจิต บุตรสาวคนโต ถึงเบื้องหลังและเส้นทางอันยาวไกลของแบรนด์การ์ตูนอันดับ 1 ของเมืองไทยนี้

อ่าน : ย้อนตำนานความฮาสามัญประจำบ้านตลอด 50 ปีของขายหัวเราะโดยครอบครัว บ..วิติ๊ด ที่ https://readthecloud.co/kaihuaror/

แต่ก่อนที่จะไปเต็มอิ่มกับเรื่องราวของพวกเขา เรามีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาเล่าสู่กันฟังก่อน

1. โลโก้ของขายหัวเราะ ออกแบบโดย อาวัฒน์-วัฒนา เพ็ชรสุวรรณ

2. นอกจากจะเป็น บ..การ์ตูนแล้ว อีกเส้นทางที่วิธิตสนใจก็คือ ภาพยนตร์ โดยสมัยเด็กๆ เขาไปวนเวียนคอยช่วยงานอยู่ในกองถ่ายของบริษัทศรีสยาม โปรดักชั่น ซึ่งเป็นธุรกิจหนึ่งของครอบครัว รวมทั้งยังเคยไปช่วยกองถ่ายเจมส์บอนด์ ตอน  The Man with The Golden Gun และ The Deer Hunter ด้วย โดยตอนนั้นเขาเคยถูกชวนให้ไปทำงานด้านภาพยนตร์ที่สหรัฐอเมริกา แต่บันลือ อุตสาหจิต ผู้เป็นพ่อไม่ยอมให้ไป

และต่อมาเขาก็ได้กำกับภาพยนตร์ของตัวเอง ชื่อเรื่อง ผีหัวขาด นำแสดงโดย สรพงศ์ ชาตรี ซึ่งมี เศรษฐา ศิระฉายา ร่วมแสดงด้วย โดยเศรษฐาบอกว่า เรื่องนี้ไม่ได้ร้องเพลง วิ่งหนีอย่างเดียว แต่ถือเป็นภาพยนตร์ที่ทำเอฟเฟกต์ได้ดีมาก สรพงศ์เป็นผีหัวขาด ไปไหนก็หิ้วหัวเดินไปเดินมาทั่วเลย

3. หนึ่งในนักเขียนคู่บุญของ บ.ก.วิธิต ก็คือ ต่าย-ภักดี แสนทวีสุข ซึ่งเดิมทีเคยไปเสนอขายการ์ตูนเล่มละบาท แต่ทางสำนักพิมพ์ไม่ยอมรับซื้อไว้ จนกระทั่งเมื่อต่ายได้เจอ บ.ก.วิธิตที่หน้าร้านบรรลือสาส์น จึงได้มีโอกาสเสนอผลงาน ซึ่งวิธิตก็รับไว้ทันที เพราะติดใจในแก๊กตลกของต่าย แล้วหลังจากนั้นเขาก็ได้สร้างผลงานมากมาย โดยเฉพาะปังปอนด์ เพราะฉะนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่า วิธิต มีสายตาของ บ.ก.การ์ตูนอย่างแท้จริง

4. บ.ก.วิธิต บอกว่า คนอ่านขายหัวเราะ ส่วนใหญ่จะอ่าน 3 เที่ยว เที่ยวแรก อ่านการ์ตูน เที่ยวที่ 2 อ่านขำขัน และเที่ยวที่ 3 อ่านเรื่องสั้น

5. แก๊กยอดฮิตที่ขายหัวเราะมีเหลือเฟือมาก ก็คือ แก๊กคริสต์มาส ปีใหม่ ตรุษจีน ชนิดที่ว่า เก็บไว้ก่อน ปีหน้าค่อยลงก็ไม่สาย แต่ส่วนใหญ่ พอเทศกาลวนกลับมาอีกรอบ แก๊กใหม่ๆ ก็ถูกส่งมาเพิ่มอีกอยู่ดี

6. 3 การ์ตูนเรื่องดังที่มีเล่มแยกต่างหากของตัวเอง จำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ก็คือ ปังปอนด์ หรือไอ้ตัวเล็ก รวมเล่มครั้งแรกเมื่อปี 2536, สาวดอกไม้กะนายกล้วยไข่ เมื่อปี 2537 และหนูหิ่น..อินเตอร์ เมื่อปี 2539

7. หนึ่งในนักเขียนที่ บ.ก.วิธิต เสียดายที่จากไปก่อนเวลา ก็คือ ต่อ-โพชฌงค์ ทองอนันต์ ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อปี 2547 เพราะเป็นนักเขียนหนุ่มที่ฝีมือดี ไอเดียดี แถมมีวินัยดีอีกต่างหาก โดยเขาเชื่อว่า หากวันนี้ต่อยังอยู่ก็จะสร้างผลงานที่น่าจดจำออกมาอีกมากมาย

8. ปังปอนด์ คือตัวละครแรกของครอบครัวขายหัวเราะที่ถูกนำไปทำเป็นแอนิเมชัน 3D โดยเรื่องนี้ได้มือดีอย่าง เอ็กซ์ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ ซึ่งเคยชนะการประกวดจากต่างประเทศมาร่วมงาน โดยแอนเมชัน ปังปอนด์ ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งได้รับรางวัลจากหน่วยงานต่างๆ เป็นตัวการ์ตูนไทยตัวแรกที่ลงพิมพ์บนตราไปรษณียากร เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ รวมทั้งได้โกอินเตอร์ ไปฉายที่ฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย

9. หลังเรียนจบกลับจากอังกฤษ นิว ลูกสาวคนโตของวิธิต ตั้งใจจะขอพักสักหน่อย ก่อนจะกลับมาลุยงานธุรกิจเต็มตัว โดยเธอบอกกับพ่อแม่ว่าจะขอเวลาสัก 1 สัปดาห์ แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ จะพักทำไมตั้งสัปดาห์หนึ่ง แค่วันเดียวก็พอแล้ว จนนิวบอกว่า “เป็นลูกบ้านนี้ต้องโหดๆ นิดหน่อย”

10. ทุกวันนี้ขายหัวเราะไม่ได้เป็นแค่ชื่อสำนักผลิต Content หรรษาเท่านั้น แต่ยังเป็นชื่อเกาะที่จังหวัดตราดด้วย โดยได้แรงบันดาลใจมาจากแก๊กติดเกาะของขายหัวเราะ เป็นเหตุให้ ททท. เชิญขายหัวเราะไปช่วยทำโปรโมต เพราะเป็นปีที่โควิดมาครั้งแรก ทำให้ชาวบ้านขาดรายได้ ซึ่งหลังจากนั้นเกาะนี้ก็โด่งดังไปทั่วประเทศ ถือเป็นการยืนยันพลังของการ์ตูนที่ช่วยเสริมมูลค่าของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้อย่างไม่น่าเชื่อ

11. ในอดีต บ.ก. วิธิต มีรูปร่างจ้ำม่ำเหมือนกับตัวการ์ตูน บ.ก. วิติ๊ด แต่ช่วงสิบปีที่ผ่านมา บ.ก. หันมาออกกำลังกายสม่ำเสมอ ถึงวันนี้อายุใกล้เลข 7 แล้ว แต่ยังสุขภาพดี มีรูปร่างผอมเพรียว เขาจึงอยากฝากข้อคิดถึงนักอ่านทุกคนว่าอย่าลืมดูแลสุขภาพ และมี work life balance

สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณให้กับลูกได้ ไม่ใช่เงินทอง แต่คือสุขภาพที่ดีของพ่อแม่ เพราะถ้าไม่ดูแลตัวเองให้ดี มีเงินล้านหมดล้าน มีสิบล้านหมดสิบล้าน บางครอบครัวต้องเริ่มต้นใหม่กันเลย

<< แชร์บทความนี้

RELATED POSTS
LATEST

Keep In Touch

COPYRIGHT © 2021 WWW.THENORMALHERO.CO.  ALL RIGHTS RESERVED.